บทนำ
เนื่องจากปัญหาอกหักเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่ทุกคนประสบ
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย สังคมก็หวังจะช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นทางโลก
หรือทางธรรม เข้าข่ม และแก้ปัญหา บางครั้งก็เอาเข็มไปบ่งให้แผลออก
ถือได้ว่าไปกันใหญ่ แต่ที่แน่ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าตาบอด หรือ ชีวิตที่หวังพึ่งพาคนรักโดยฝ่ายเดียว
ทำให้เราหมั่นเอาความคิด ความหวัง ความสุขไปฝากไว้ที่คนรักบ่อยๆ
เอาคนรักเป็นที่พึ่งทางใจมากกว่า พระ หรือ ศาสนาด้วย
ณ เวลาผ่านไป เราเลิกกัน
มันเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงมักเป็นกันมาก จึงทำใจ หรือ
รับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ บ้างแผลสด ก็มีวิธีแก้แบบทันใจ บาดแผลเรื้อรัง
อาคันตุกะ มารมาเยี่ยมบ่อยๆ เรียกได้ว่า ปัญหาอกหัก หรือ ตัดใจจากคนรักเก่า ไม่ได้
ต้องใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์ และธรรมะ เข้ามาเกี่ยว ถึงจะปรุงยาแก้นี้ได้
บทที่ 1 เมื่อเค้าจากไปแล้ว แต่เรายังอินอยู่ ...
เคยเป็นไหม คนชอบพูดว่า แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา
หรือ ผู้ชายมีมากกว่าฝูงหมา (วงกางเกง) แต่คนๆนี้
มันแทนที่ด้วยคนอื่นไม่ได้ไง....555 โรคอกหักนี้ จึงแก้ไม่ได้สักที
ในขณะที่คนอื่นเค้ามีแฟนใหม่กันไปหลายคู่แล้ว เราก็ยังอินอยู่ ขนาดว่า จิตใต้สำนึก
ลึกๆ ยังนึกว่าเธอเป็นของฉัน (น็อตโตะ) อ้าว ลืมไปว่าไม่รักกัน (นูโว)
เธอจากไปแล้ว แต่ฉันยังคิดว่าเธอยังอยู่ อะไรทำนองนี้ จริงๆ เรื่องทั้งหมดนั้น
เกิดจากตัวเราเพียงฝ่ายเดียว จริงๆ ไม่เกี่ยวกับเค้าเลย ลองคิดดูให้ดีๆ
ถ้าเราไม่เปลี่ยนที่ตัวเรา ...ปัญหา ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำๆ วนๆ เหมือนเดิม (เครดิต -ขุนเขา)
ผักสลัด เป็นอาหารที่มีคุณค่าแต่ถ้าเค้าเลือกจะไปกิน steak กินลาบก้อย ก็ตามใจเค้า
มันเป็นความผิดของเค้า ไม่ใช่ความผิดของเรา. (เครดิต-ขุนเขา)
เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เรามักจะมองออกนอกตัวเอง
...แทนที่จะมองตัวเอง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง แต่เรามักเอาจิต
ไปรวมกับความคิด และ หัวใจ เอามันไปแปะไว้กับคนอื่น ดังเพลง ฝากให้เธอเลี้ยงดู
ของเจ เจตริน แต่แท้จริงแล้ว เราไม่กล้าที่จะอยู่คนเดียว อยากเป็น “คน” ของใครสักคนแทน การคิดแบบนี้
รู้สึกแบบนี้ นับว่าเสี่ยงมาก เพราะเหตุปัจจัย คนอื่น มันแกว่ง และหวั่นไหวง่าย
ยิ่งกว่า ของเราเสียอีก..เค้าเรียกว่า ตกเป็นทาสความรัก เป็นหลักไม้เลื้อย
ให้คนรัก หรือแฟน เป็นคนกุมชะตาชีวิต ของเรา
วันนี้
เราจะมีความสุขหรือความทุกข์ได้ขึ้นอยู่กับ Re-act ของเค้า
ดังนั้น ถ้าวันนี้เค้าจากไป...คนที่เหลือ อยู่ข้างหลังเศร้ากว่า
คนที่ทิ้งไปหลายเท่า และกลไกป้องกันทางจิต ก็ช่วย protect ไว้ว่า ไม่
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น (หลอกตัวเอง) เค้ายังอยู่ และเรายังรักกันอยู่ตลอดไป (เช่น
เพลงเขียนให้ลืมเธอ หรือฝึกเป็นแฟนเก่า) ส่วนอยู่ใน ภาวะหลอน ภาวะอินเลิฟ
(ทั้งที่เลิฟ จากไปแล้ว) แต่ก็ช่างเถอะ พูดมากไป คนอ่อนแอๆ ก็ยัง
เป็นคนอ่อนแอวันยังค่ำ ไม่มีวันเข้าใจอะไรหรอก
บทที่ 2 ใจตัดไม่ได้ มันต้องปล่อยวาง (ดังตฤณ)
คุณดังตฤณเคยบอกว่า ใจเป็นสิ่งที่ตัดไม่ได้
เพราะใจไม่ใช่กระดาษ อาจจะหมาย หรือ ผู้พูดว่า ตัดใจ อยากจะสื่อให้เปลี่ยนใจ
หรือล้มเลิกความหวังว่าจะถนอมรักให้อยู่กันต่อไป ที่โบราณ
หรือพ่อแม่สอนไว้ว่าให้รักใคร ก็เผื่อใจไว้บ้าง ก็เพื่อป้องกัน
เหตุที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ เพราะรากต้นเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนนั้นก็คือ สัพเพ
ธัมมานัง อภินิเวสาละ ธรรมทั้งหลายทั้งปวง บุคคลไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น
อะไรมันก็เกิดขึ้นได้
การตัดใจนั้น ไม่มี แต่การวางใจ การปล่อยวางจิตใจ
ปล่อยวางการยึดมั่นถือมั่น นำไปสู่การแยกธาตุ ตัวเรายังไม่มีเลย
เค้าก็ย่อมไม่มีเหมือนกัน หรือนึกถึงว่า คนเราไม่จากกันเป็น ก็จากกันตาย เค้าจากเราไปในวันนี้
มันก็ถึงเวลาแล้วล่ะ ถ้าวันนี้ไม่จาก วันข้างหน้าก็จาก วันที่เค้าถูกมัจจุราช เอาเค้าไปจากเรา
..ปล่อยเค้าไป
คนโบราณท่านว่า เมื่อเราปล่อยวางความรักไป อย่าวิ่งตามหาความรัก
แต่แปลกถ้าเราอยู่เฉยๆ มันจะวิ่งมาหาเรา เอง แต่ถามกลับว่าทำไม อยากได้คนรัก
ถ้าความมัวเมามันจะมีมาก ยามรักก็รักเค้า
คิดถึงแทบลมหายใจเข้าออก ยามเลิก ก็เกลียดเข้าไส้ เกลียดแบบว่าบ้านมันก็จะไปเผา
บริษัทเค้า เราจะไปวางระเบิด ทุกอย่างให้มันมอดไหม้ นี่นแหละ พลังอำนาจ
ของจิตที่ไปรวมกับความคิด มันฟุ้งซ่าน ไปได้ไกล เหมือนระเบิดนิวเคลียร์
ลองนั่งสมาธิปั่นออกดูไหม จับที่หน้าเค้า
จับที่ชื่อเค้า จับที่ความรักที่เรามี (ความหลงมากกว่า) แล้วปล่อยทิ้ง
นึกเอาไปปล่อยทิ้ง ทำทุกวัน มันอาจจะนานเป็นเดือน เป็นปีก็ได้
สักวันมันก็ต้องหาย..อานุภาพ ของการปล่อย มันก็รุนแรงได้
อยู่ที่จะรับกระบวนยุทธนี้ได้มากแค่ไหน
หมั่นทำบุญ ทำสังฆทานด้วย ให้ใจมันโล่งๆ
สว่างๆ หลังจากนั้น ค่อยไปสอบวัดระดับต่อ เวลาอาคันตุกะ
/กิเลสมากหลอกล่อก็มายั่วยวน ให้เรากลับไปหาเค้าอีก (ทุกกระบวนท่า
ที่จะพอหลอกเราได้)
ถ้าไม่ไหว ชีวิตไร้รัก ก็เหมือนชีวิตที่ปราศจากความหมาย
บางคนเคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ถ้าชีวิตนี้ ฉันไม่มีเธอ
ซึ่งมันไม่จริงเลย ตอนเด็กๆ ก่อนจะโต เป็นวัยรุ่น ก่อนที่จะโต มาเจอเธอ
ฉันก็อยู่มาได้ดิบดี ไม่เป็นอะไร ทำไมมาตอนนี้ มันเหมือนจะเป็นจะตาย มันก็มี ingredient
ดังต่อไปนี้
1. ความผูกพัน 2. ฮอร์โมนเพศ (วัยรุ่น)
ยังไงก็นี่หมายถึง คุณยังไม่มีอะไรกับเค้านะ ถ้ามีก็ยิ่งออกยากไปใหญ่
วิธีแก้อกหักแบบ อ.เสถียร โพธินันทะ คือปล่อยไปเฉยๆ เดี๋ยวจิต จะเยียวยาตัวมันเอง มันจะมีเรื่องให้ตกใจ
มากกว่า เครียดมากกว่า เดี๋ยวก็ลืม (เช่น อกหัก ทุกข์เพราะอกหัก เด๋ว
ญาติผู้ใหญ่เสีย จิตไปคิดกลุ้มใจกับเรื่องญาติผู้ใหญ่เสีย หรือ เรื่องแบ่งมรดกแทน หายเลย) อันนี้ง่าย
พวกที่ลืมง่าย
หรือจะแก้ด้วย อสุภะกัมมัฏฐาน คือใช้ระลึกภาพความล่วงไปของสังขาร
หน้าตาคนรัก รูปร่างคนรัก (ที่เรารัก) กาลเวลาผ่านไปก็ล่วงเลยไป อ้วน, หลังค่อม,
ฟันหัก, หน้าเหี่ยวย่น หัวล้าน หัวเถิก
ไม่เห็นจะน่ารักน่าหลงใหลตรงไหน แต่บางคนเพ่งอสุภะ ก็ไม่ช่วยอะไร
ก็ต้องหาวิธีอื่นต่อไป
หรือทางแก้ที่ท่าน ดร.วรภัทร ภู่เจริญ เคยสอนไว้คือ ทำตัวให้ยุ่งๆ
เข้าไว้ ถ้าไม่มีอะไรทำ ก็ไปล้างห้องน้ำ ,ขัดส้วม ทำละลายตู้เย็น ขัดห้องน้ำใหม่
ทำไปเดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็ลืม จิตมันอยู่ไม่นิ่ง เดี๋ยว ก้อต้องเปลี่ยนไป 30 นาที
ก็หาย ไปคิดเรื่องอื่นๆ 1 ชม. 2 ชม. 4-5 ชม. อยู่ได้ไม่นานหรอก เชื่อดิ ลองทำดู
พวกผู้หญิงที่ยุ่งยาก ฟุ้งซ่านนัก คิดจะฆ่าตัวตาย นั่้นเป็นผู้หญิงขี้เกียจ
ผู้หญิงเก่งๆ เค้าจะรีบตัดใจ หางานทำ หาเงิน ให้ความสำคัญ กับงาน หน้าที่
จนไม่มีเวลามานั่งคร่ำครวญ ตีอกชกตัว (อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงฟุ้งซ่าน คิดมาก) หรือถ้ามีเงิน ก็ออกไปเรียน หาอะไรทำ (ทำงานอดิเรก)
อย่าทำตัวให้ว่างงาน
บทที่ 3 ก่อนจะเลิกรา ธรรมชาติหลอกให้เรารักกัน
คู่เวร
หรือคนที่จะปาวารณาตัวเองมาให้บททดสอบจิตใจ เราจะมาทำให้เรารักก่อน
แล้วค่อยให้บทเรียนทีหลัง
ถ้าเรามี time machine ย้อนไปดูอนาคตได้ว่า
จะรู้สึกว่า โอ้ เสียเวลามาก แล้วจะมารักกันทำไม ไร้สาระมาก แต่นี่แหละชีวิต
ให้เรียนรู้ไง เวลารัก ยามรักก็รักกัน แบบ wonderful รักกันแบบ
มองไม่เห็นหนทางเลยว่า อนาคต เราจะเกลียดกันก็ได้ เราจะเลิกกันได้
เราจะอาฆาตแค้นกันได้ขนาดนี้ นี่แหละความโหดร้ายของธรรมชาติ
ถ้าคู่รักที่ไม่มีบุญเชื่อม หรือพยุงไว้ กันอยู่ได้ไม่นาน ทุกอย่างในโลก
ล้วนเป็นเรื่องของกรรมสัมพันธ์มาผูกกันทั้งนั้น เราอาจจะมี บาปกรรมสัมพันธ์
กับเค้าในชาติก่อนๆ จนบางครั้ง ต้องถามฟ้าดินว่า มันเกิดอะไรขึ้น นึกถึงเพลง
5นาทีบรรลุธรรม (บีทเทิ้ล) เคยไปทำกรรมอะไรไว้ เคยไปทำอะไรใครที่ไหน ถึงได้ทุกข์เพราะรักขนาดนี้
แรงเหวี่ยง Momentum สำคัญ ยิ่งรักมาก ยิ่งเกลียดมาก รักมากเท่าไหร่ เวลาทำใจให้ลืม
หรือดีขึ้นก็ยาก บางคู่รักกัน 1 ปี อาจใช้เวลาลืม 4 ปี อันนี้แล้วแต่คู่ บางคนก็เปลี่ยนความรักเป็นพลัง ด้านศิลปะ เช่น
เขียนไดอารี่ แต่งเพลงบอกแล้วเรื่อง รักคุด ความรู้สึก จนดังไปเลย ก็มี
ถ้าเข้าข่ายทำนอง we will survive แล้ว ต้องนึกขอบคุณที่ทิ้งฉันไป
อันนี้ก็ดีไปอีกแบบ
บทที่ 4 ขอบคุณที่ทิ้งกัน
การอยู่คนเดียวก็เหมือนการได้อิสระ เสมือนคนที่ว่ายน้ำ พยุงตัวไปได้ในกระแสสายธารอันกว้างใหญ่ไพศาล
การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือการมีชีวิตที่ดี การที่จะพูดว่าขอบคุณที่ทิ้งกัน
มันจะเกิดเมื่อคุณรู้สึกว่า พอคุณเริ่มไม่ยึดติดในเค้า หรือหายสะอึกสะอื้น
ว่าต้องพึ่งพาเค้า ทางจิตใจ เราอาจะได้เจอของดี ,แฟนใหม่ หรือได้ชีวิตใหม่
ทำให้เรานึกย้อนไปว่า เออก็ดี เหมือนกันนะ
ถ้าเค้าไม่ทิ้งเรา
เราก็คงไม่ได้ลิ้มลองรสชาติชีวิตใหม่ แฟนใหม่ หรือสภาวะใหม่ๆที่ไม่ต้องมีเธอ
มันก็ดีเหมือนกันแฮะ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น ได้ ก็ต้องลองผิดลองถูก
ลองปฏิบัติตามกฎเยียวยา แผลใจอีกเยอะกว่าจะหลุดพ้นจากตรงนั้นมาได้
บทที่ 5 How to โสดแบบอิสระ
บางคนโสด แบบจำใจโสด บางคนโสดเพราะตั้งใจ โสด บางคนคิดฆ่าตัวตายเพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ถอยออกมาอีกนิด เพราะการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะอย่างน้อย ชีวิตของเราก็เป็นของพ่อแม่ (จะต้องขออนุญาตพ่อแม่ก่อนฆ่าตัวตาย)
เพราะชีวิตเป็นของพ่อแม่ด้วย
แต่ถ้าไม่ฆ่าตัวตายล่ะ
...การมีชีวิตอยู่เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ก็น่าสนใจอยู่ (คนโสดเป็นผู้ที่ได้
รับอานิสงค์นี้ ) คนไม่มีแฟน ,ไม่มีลูก สามารถเล่นเกมฟินๆ แบบนี้ได้ มันเข้มข้น
จุใจ แต่สะใจ เต็มที่ จะใช้เงินให้เหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้รออยู่ก็ได้
จะใช้เวลาไปท่องเที่ยว เหมือนชีวิตมีแค่ midnight ก้อได้ จะ wild
เหวี่ยงป่าเถื่อน
ยังไงก็ได้ เพราะนี่คือ เอกสิทธิ์ของคนโสด
แต่แท้จริงแล้ว ความหมายของชีวิตมันก็ดี
การได้อยู่เพื่อทำประโยชน์ให้คนอื่นๆ การทำสิ่งดีๆ หรือแอบกลับไป
ค้นหาตัวเองว่าตอนเด็กๆ เคยฝันอะไรแล้ว ใช้ชีวิตที่มีอยู่ดีตามความฝัน
หรือไปที่ๆที่อยากไป ลองดู มีเพลงที่ให้กำลังใจมากมาย เช่น ก้อนหินก้อนนั้น (โรส)
ครึ่งชีวิต (พี่แอม) หรือแม้แต่ เพลงอยู่เพื่อตัวเอง ของ mad pack it
หวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านได้ปล่อยวางจากความรักที่จับไว้แน่นได้ กับความรักที่อินๆ หลงแรง รักแรงได้ และเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น และยืนบนขาของตัวเองได้ มีจิตใจที่เป็นอิสระ ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ความรัก ความหลงที่ให้กับคนอื่น หรือคนที่ไม่สมควรจะได้รับความรักจากเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น